เดือน: พฤศจิกายน 2016

อย่างที่เคยบอกไปแล้วก่อนหน้านี้ว่า ระบบ RFID นั้น เป็นระบบที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกับ ประตูอัตโนมัติ ได้ ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ไม่ได้มีเพียงประตูอัตโนมัติเท่านั้นที่สามารถใช้งานระบบ RFID ได้ ยังสามารถนำไปใช้กับงานอื่น ๆ ได้ด้วย

การนำระบบ RFID ไปประยุกต์ใช้

– ระบบ  RFID สามารถนำไปประยุกต์ในเรื่องของ ระบบบริหารงานบุคคล โดยใช้ เครื่องทาบบัตร (Tag Reader) ในการบันทึกหรือติดตามเวลาการทำงานของพนักงานรวมถึงสามารถดูได้ว่าพนักงานอยู่ในส่วนไหนของโรงงาน รวมถึงใช้เครื่องทาบบัตรแยกส่วนของสิทธิส่วนบุคคลในส่วนของระบบรักษาความปลอดภัย มีการนำข้อมูลการเข้าถึงระบบต่างๆ บรรจุไว้ใน RFID เพื่อสามารถเข้าไปทำงานในส่วนต่างๆ ประโยชน์ของ RFID ต่อ ระบบ Management and Security คือ การตรวจสอบเวลาทำงาน รวมถึงการเข้าถึงส่วนต่างๆ และการนำข้อมูลไปใช้ร่วมกับระบบอื่นๆ เช่น ระบบเงินเดือน หรือระบบสิทธิของการเข้าถึงสถานที่ต่างๆ
– การตรวจจับความเร็วของรถที่วิ่งบนท้องถนน โดยหลักการทำงานของระบบเทคโนโลยี RFID จะมีการตรวจจับรถที่วิ่งผ่านจุดที่กำหนดไว้อย่างน้อย 2 จุด เพื่อให้ได้ระยะทางและเวลาที่รถใช้ในการเดินทาง ซึ่งเมื่อนำระยะทางมาหารด้วยเวลาก็จะสามารถคำนวณความเร็วเฉลี่ยของรถคันดังกล่าว ถ้าคำนวณความเร็วเฉลี่ยแล้วผลปรากฏว่า รถคันดังกล่าวขับเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดก็จะถือว่ามีความผิดและสามารถเก็บข้อมูลรถคันดังกล่าวเพื่อทำการออกใบสั่งตามไปที่บ้านได้อีกด้วย
– ห้องสมุดโดยการติดRFID Chip ปัจจุบันห้องสมุดของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งของไทยได้ทดลองนำ ระบบRFID มาใช้กับระบบห้องสมุด โดยการติดRFID Chip ไว้ที่หนังสือในห้องสมุด แล้วใส่ข้อมูลต่างๆ ของหนังสือเล่มนั้นๆ ไว้ใน Chip อย่างเช่น ข้อมูลชื่อหนังสือ ประเภทหนังสือ ชั้นที่เก็บหนังสือ และติดเครื่องทาบบัตร (Tag Reader) ไว้ตามพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำงานร่วมกันระบบงานที่สำคัญๆ ได้ดังต่อไปนี้ การบริการยืมคืนวัสดุสารสนเทศ (Self-Service) การบริการรับคืนวัสดุสารสนเทศด้วยตนเอง (Material Return) ที่ตู้รับคืนหนังสืออัตโนมัติ (Book Return) ระบบรักษาความปลอดภัยของวัสดุสารสนเทศ

     ในปัจจุบันนี้การติดตั้ง ประตูอัตโนมัติ เริ่มนิยมกันมากขึ้น เพราะ ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่หลายบ้านเลือกใช้ สำหรับประตูบ้านที่ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับบ้าน ทั้งยังจะให้คนในบ้านใช้งานได้อย่างสะดวก ซึ่งต้องมีการพิจารณา และ มีการเลือกสรรอย่างดีเสมอ ประตูอัตโนมัติ ถือเป็นอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานกับประตูบ้าน หรือ อาคารสำนักงานโดยเฉพาะ เพื่อรักษาความปลอดภัย และ ช่วยลดฝุ่นละอองเข้าอาคาร เสียงในขณะเครื่องทำงานต่ำ จะช่วยประหยัดไฟฟ้าในการใช้แอร์ เนื่องจาก ประตูอัตโนมัติ ช่วยในการล็อคอากาศจากภายนอกสู่ภายในได้เป็นอย่างดี ประตูอัตโนมัติการทำงานก็เป็นไปอย่างนุ่นนวล ด้วยการควบคุมของมอเตอร์ และ อุปกรณ์อื่น ๆ ที่ติดตั้ง อุปกรณ์ยังประกอบด้วยระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ที่ติดตั้งบริเวณบานประตูทุกบาน

การทำงานของประตูรีโมท

      ประตูรีโมท เป็นที่นิยมใช้สำหรับบ้านเรือนทั่วไปด้วย โดยการติดตั้งประตูรีโมทอัตโนมัติ ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญกับบ้านอย่างมาก ซึ่งก็มี ข้อดีของประตูรีโมท อยู่หลากหลาย ข้อสำคัญคือ จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย มีความทนทานสูงทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ช่วยประหยัดเวลาในการเปิดปิดประตู ช่วยอำนวยความสะดวก และ ที่สำคัญคือช่วยควบคุมการเข้า – ออกบ้านได้ด้วย

      ประตูรีโมทเป็นประตูที่สามารถควบคุมด้วยรีโมทคอนโทรล โดยทั่วไปแล้วจะติดตั้งกันเป็นประตูรั้วบ้านนั่นเอง การทำงานของประตูอัตโนมัติชนิดนี้ก็คือ รับสัญญาณการสั่งการจากรีโมท ซึ่งผู้ใช้งานแม้อยู่ในรถก็สามารถสั่งงานได้โดยไม่ต้องลงจากรถเลย จากนั้นเมื่อมีการรับสัญญาณเรียบร้อยแล้ว ระบบจะสั่งการไปที่มอเตอร์ให้เปิดประตูออก เพื่อให้รถสามารถเคลื่อนเข้าไปได้ โดยระหว่างที่ประตูทำงานอยู่นั้น จะมีไฟไซเรนที่ติดตั้งอยู่บริเวณหัวเสานั้นแสดงให้ผู้ขับขี่ทราบว่าประตูกำลังทำงานอยู่ด้วย

สำหรับ ประตูอัตโนมัติ นั้น จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจจับความเคลื่อนไหว เพื่อเป็นตัวออกคำสั่งให้ประตูนั้นเปิด-ปิดอัตโนมัติ  ซึ่งก็จะมีอุปกรณ์อยู่หลากหลายอย่าง โดยทั่วไปก็จะเป็นเซนเซอร์สำหรับตรวจจับความเคลื่อนไหวนั่นเอง

อินฟราเรด โฟโต้เซนเซอร์ (Photo Sensor) คือ

โฟโต้เซนเซอร์ เป็นระบบการตรวจจับเคลื่อนไหวที่ได้ถูกนำมาใช้สำหรับการรักษาความปลอดภัยส่วนบุคคล  และ ตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งมีการนำใช้งานมาเป็นระยะเวลานานแล้ว  โดยจะนำอุปกรณ์ชนิดนี้มาประยุกต์ใช้ตามความเหมาะสมของสถานที่นั้น ๆ ถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยในการเตือนภัยชนิดหนึ่ง  มักมีการประยุกต์กับสัญญาณกันขโมย  ซึ่งจะช่วยให้มีการป้องกันในเวลาที่เกิดเรื่องขึ้นจริงในขณะนั้น นอกจากเรื่องความปลอดภัยแล้ว ยังสามารถนำมาใช้เพื่อป้องกันผู้บุกรุก หรือ บุคคลภายนอกได้

ลักษณะของอินฟราเรด โฟโต้เซนเซอร์  (Photo Sensor) สำหรับประตูอัตโนมัติ
อินฟราเรดโฟโต้เซนเซอร์  (Photo Sensor)ถือเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ในการตรวจจับวัตถุ หรือ คน โดยมีการอาศัยหลักการส่ง และ รับแสง  ซึ่งแสงที่ใช้ในการทำงานของอุปกรณ์นั้นก็คือ แสงที่ได้จากหลอด LED  โดยจะประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
– แสงที่สายตามนุษย์มองเห็นได้
– แสงอินฟราเรด ซึ่งเป็นแสงที่มนุษย์ไม่เห็น เพราะมีความยาวคลื่นสูงกว่า 800 นาโนเมตร ความสัมพันธ์ระหว่างสี และ ประเภทของวัตถุกับระยะตรวจจับ
ความสำคัญของอินฟราเรด โฟโต้เซนเซอร์ (Photo Sensor) ประตูอัตโนมัติ
เป็นเซนเซอร์ที่สำคัญที่สุดของ ประตูอัตโนมัติ เพื่อป้องกันประตูหนีบชนขณะปิด โดยชุดอินฟราเรดโฟโต้เซ็นเซอร์ มีการทำงานเมื่อมีวัตถุเคลื่อนผ่าน ขณะประตูกำลังเลื่อนปิด ประตูจะหยุด หรือ ถอยกลับทันที จนกว่าวัตถุนั้นจะเคลื่อนที่ออกจึงสามารถกดรีโมท เพื่อปิดประตูได้  อธิบายง่าย ๆ คือ หากมีคนเดินผ่านเข้ามา ประตูจะวิ่งเปิดกลับ โดยไม่มีการหนีบ หรือ ชนกลับ ทั้งคน หรือ รถยนต์
อินฟราเรด โฟโต้เซนเซอร์ (Photo Sensor)  มีกระจกเลนส์รวมแสง ระยะหวังผล 5 – 10 เมตร พร้อมฝาครอบป้องกันแสงอาทิตย์ในการสร้างความปลอดภัย สามารถมั่นใจได้เลยว่าจะไม่เกิดความผิดพลาดเพราะมี Double safety relays แบบ Inter Lock

    ปัจจุบันการนำ ประตูอัตโนมัติ มาใช้ ก็เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน แต่ยังมีประโยชน์อีกประการคือ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเข้าออกสถานที่อาคารนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็น คอนโด , อาคารสำนักงาน เป็นต้น โดยมีการนำเครื่องสแกนลายนิ้วมือมาใช้ร่วมด้วย

หลักการทำงานเครื่องสแกนลายนิ้วมือ

– เครื่องสแกนลายนิ้วมือเป็นแบบ Optical เซ็นเซอร์ คุณภาพสูง ที่วางนิ้วเป็นกระจกทนรอยขีดข่วน, น้ำมัน,สารเคมีต่างๆ ( High quality optical sensor )

– ใช้ algorithm แบบพิสูจน์เอกลักษณ์ของลายนิ้วมือ (Minutiae recognition) ที่แม่นยำสูงสุดไร้ปัญหาบันทึกนิ้วผิดคนเมื่อใช้กับจำนวนคนมาก (Powerful and accurate algorithm (Based on Minutiae recognition)

– มีระบบ Standalone ทำงานอัตโนมัติ โดยไม่ต้องเปิดคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา

– ใช้ได้กับจำนวนคนสูงสุด 4000 คน (ต่อ 2 ลายนิ้ว) โดยที่ความเร็วไม่ลด

– สแกนและตรวจสอบลายนิ้วมือได้รวดเร็ว เสถียรไม่รวนเมื่อใช้ในระยะยาว

– สามารถใช้งานเป็น Reader ทำงานร่วมกับระบบ Wigwagged Access Control ได้

ประตูอัตโนมัติ มีหลายรูปแบบ ทั้ง ประตูบานเลื่อนอัตโนมัติ , ประตูรีโมท เป็นต้น โดยทั่วไปแล้วก็มักจะมีอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ร่วมอยู่ด้วย ซึ่งแต่ละชนิดนั้นก็จะมีอุปกรณ์ต่างกันไป มีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย

อุปกรณ์สำหรับประตูอัตโนมัติ

– Microwave-sensor คือ เซนเซอร์ตรวจจับวัตถุ หรือ เซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว เพื่อสั่งเปิด – ปิดประตูอัตโนมัติ  ซึ่งอุปกรณ์ชนิดนี้นั้น สามารถปรับองศาการตรวจจับได้ ตามความต้องการ และ ความเหมาะสม
– Stopper   คือ อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับ ตั้งระยะการเลื่อนเปิด และ ปิด ของ ประตูอัตโนมัติ
– Controller  คือ ชุดควบคุมการทำงานต่าง ๆ ของ ประตูอัตโนมัติ
– Timing Belt   คือ อุปกรณ์สำหรับประตูบานเลื่อนอัตโนมัติ เรียกว่า ” สายพาน ” มีไว้สำหรับดึงเลื่อนบานประตูให้เปิดออก
– Brush-less DC-Motor  คือ มอเตอร์สำหรับขับเคลื่อนประตูต่าง ๆ  หรือ การเลื่อนเปิด – ปิด ของประตูอัตโนมัติ
– Door-hanger-Roller   คือ อุปกรณ์สำหรับจับยึดบานประตูของเดิม
– Remote Control   รีโมทควบคุมสั่งงาน ประตูอัตโนมัติ ประเภท ประตูรีโมท หรือ ประตูรั้วรีโมท สั่งได้ทั้งการปิด และ เปิด , สั่งเปิดประตูครึ่งเดียว , สั่งเปิดประตูค้าง
– Belt Tensionner   คือ อุปกรณ์ปรับความตึงของ Timing Belt

    ระบบลานจอดรถ เป็นระบบจัดการการจอดรถ และ การเข้าออกสถานที่ต่าง ๆ ที่มีลานจอดรถ ซึ่งโดยทั่วไปก็จะทำงานร่วมกันหลายระบบ ไม่ว่าจะเป็น ระบบ ไม้กั้นรถ ระบบนับรถเข้า- ออก เป็นต้น ซึ่งนอกจากนี้ก็ยังมีอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เพื่อให้ระบบลานจอดรถทำงานได้สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

สมบัติของ RFID System กับ ไม้กั้นรถ

– ระบบ RFID สามารถอ่านและเขียนโดยไม่ต้องสัมผัส (Contactless)

-ทนต่อสภาพแวดล้อมและสิ่งสกปรก

– สามารถอ่าน-เขียนข้อมูลได้สะดวก

– สื่อสารได้ทุกทิศทาง จึงไม่ต้องคำนึงว่า Tags จะต้องอยู่ตรงหน้ากับเครื่องอ่านเสมอ

– ด้วยลักษณะโครงสร้างและความสามารถในการเขียนข้อมูลซ้ำได้ทำให้ Tags สามารถกลับมาใช้ในการผลิตได้มากกว่า 100,000 ครั้ง ต่อ 1 Tags

– สามารถผ่านวัตถุที่ไม่ใช่โลหะหรือมีโลหะเป็นส่วนผสมอยู่ได้

– ระยะในการอ่าน/เขียนบัตรข้อมูลทำได้ตั้งแต่ 0-10 เมตร

– หน่วยความจำมีขนาดใหญ่ตั้งแต่ 1 บิต (EAS) จนถึงมากกว่า 8 กิโลไบต์

– อ่าน/เขียนข้อมูลได้ครั้งละมากกว่า 1 Tags พร้อมกัน หรือจะสามารถเลือกอ่านเฉพาะ Tags ที่ระบุก็ได้

– สามารถอ่าน/เขียนข้อมูลขณะวัตถุกำลังเคลื่อนที่

ในปัจจุบันหลาย ๆ  บ้าน หลายๆครัวเรือน ต้องการความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นในการใช้ชีวิตประจำวันในเรื่องต่าง ๆ  สำหรับประตูรั้วบ้านเอง ก็ได้มีการพัฒนาอุปกรณ์ขึ้นมาให้มีเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกให้กับคนใช้งานมากขึ้น เช่น ประตูรีโมท ที่เพียงแค่สั่งงานผ่านรีโมทคอนโทรลก็สามารถทำให้ประตูรั้วนั้นเปิดได้อัตโนมัติ เป็นต้น ซึ่งประตูรั้วบ้านนั้นก็มีหลายประเภทให้เลือกใช้ แล้วแต่ความต้องการของเจ้าของบ้าน และ ความเหมาะสมในการใช้งานด้วย

ประตูรั้วบานสลับ คือ

ประตูรั้วบานสลับ  เป็นประตูที่เหมาะกับหน้าบ้าน 5 เมตรขึ้นไป อย่างเช่น ทาวน์เฮ้าส์, ทาวน์โฮม มีการเปิด-ปิด คล้ายกับบานเลื่อนแต่เป็น 2 บาน ซ้าย และ ขวา ข้อเด่นของประตูเช่นนี้ คือ สามารถเปิดได้ 2 ด้าน สามารถเก็บประตูได้เรียบร้อย และ สามารถเจาะประตูเล็กสำหรับเดินเข้าออก ยังสามารถติดมอเตอร์รีโมทแบบบานเลื่อนให้เป็น ประตูรีโมท แบบอัตโนมัติได้ เพื่อการใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น

การดูแลรักษารีโมทคอนโทรล

– ไม่ควรวาง หรือ เก็บรีโมทไว้ในที่มีอากาศร้อน เพราะ อาจจะทำให้ระบบวงจรภายในเสียได้

– ควรเปลี่ยนถ่านในตัวรีโมททุก 6 – 8 เดือน โดยประมาณ เพื่อให้รีโมทพร้อมใช้งานตลอดเวลานั่นเอง

– ไม่ควรกดรีโมทแช่ไว้เป็นเวลานาน หรือ ติดต่อกันหลายครั้ง เพราะ จะทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่สั้นลง ทำให้ ต้องเปลี่ยนถ่าน หรือ แบตเตอรี่บ่อยขึ้นก็ได้

– หลีกเลี่ยง รีโมทคอนโทรลเปียกน้ำ หรือ สัมผัสน้ำโดยตรง เนื่องด้วย รีโมทคอนโทรลนั้น มีระบบวงจรไฟฟ้าอยู่ภายใน อาจจะทำให้ ระบบนั้นเกิดการช็อต และ ไม่สามารถใช้งานได้อีก

– ไม่ควรกดรีโมท ในขณะที่มีเด็กเล่นอยู่ใกล้ประตู เพราะ อาจจะเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ดังนั้น ก่อนสั่งเปิด ประตูรีโมท นั้น ก็ควรตรวจเช็คให้ดีก่อน